2024B003
รอยสนธยา ช่วงเวลากึ่งมืดมนปนสว่าง
บนเส้นทางแห่งความสับสน
เครือวัลย์ ศรประสิทธิ์
โมงยามสนธยาคือช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน ไม่ได้มืดมิดจนปิดเส้นทางแต่ก็ไม่สว่างจนก้าวย่างอย่างมั่นใจ รอยสนธยา นวนิยายโดย ทรงศีล ทิวสมบุญ หนึ่งในสิบของวรรณกรรมประเภทนวนิยาย ที่ผ่านเข้ารอบรางวัลซีไรต์ประจำปี 2564
แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงบางส่วนของผู้แต่ง มีกลิ่นอายในความเป็นนวนิยายลึกลับสยองขวัญบนฉากหลังของโรงเรียนอาชีวะยุค90 เนื้อหาที่คาดเดาไม่ได้กับปริศนาที่ก้ำกึ่งระหว่างสิ่งลี้ลับหรือภาวะต้องเผชิญปัญหาในช่วงวัยที่สับสน รอยสนธยา จึงเป็นนวนิยายแนว Coming of Ageผสมผสานความลึกลับ เรื่องราวของชายผู้ติดอยู่ในอวนอดีต
ยูพี ชายวัย 39 ปี ผู้มีฝันร้ายตามหลอกหลอนมาตลอด เขาหวนกลับคิดถึงสมัยวัยรุ่นในรั่วโรงเรียนอาชีวะ เรื่องราวหลากหลายรสชาติที่มีความเปรี้ยว มันส์ หวาน ขมผสมอยู่ในคำว่า “มิตรภาพ” พร้อมกับปริศนาที่เขาได้เผชิญ และโศกนาฏกรรมนองเลือดกลับมาเยือนเขาอีกครั้งด้วยรูปแบบของความทรงจำ ยูพีกลับมาเยือนโรงเรียนเก่าพร้อมกับ เหลือม เพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียว แฟ้มประวัติของโรงเรียนนี้มีบางจุดบางแห่งเคยเกิดเหตุฆาตกรรมครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับมีอาถรรพ์ รวมถึงเหตุการณ์นองเลือดที่เขาอยู่ในเหตุการณ์ระหว่างเพื่อนในกลุ่ม เพื่อนสาวที่เคยรู้จัก และผู้หญิงที่แอบรัก เขาได้ค้นพบคำตอบที่มาของความอาถรรพ์ ว่ามันคือความเคียดแค้นจากวิญญาณหญิงสาวที่สิงสถิตใต้ต้นจำปา เพื่อรอเวลาล่อลวงผู้คนที่มีภาวะสับสนและเกิดความมืดมนในจิตใจ เมื่อรู้คำตอบที่สงสัย เขากลับขาดสติกลายเป็นฆาตกรพุ่งบีบคอเพื่อนชายจนเสียชีวิต ท้ายสุดการกลับคืนสู่ความทรงจำอันเลวร้ายได้พาเขาเข้าสู่เหตุการณ์ฆาตกรรมอีกครั้ง และมันจะเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายที่ทับถมในจิตใจเขาไปตลอดกาล
ผู้เขียนหยิบยกประเด็นชีวิตวัยรุ่นขึ้นมาเล่าเป็นแก่นหลักสำคัญ วัยรุ่นคือช่วงวัยที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน คือช่วงวัยที่เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านจากเด็กสู่ผู้ใหญ่ ราวกับช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ใกล้ลาขอบฟ้าก้ำกึ่งระหว่างกลางวันและราตรีกาล ความเปราะบางและสับสนของวัยรุ่นผู้เชื่อว่าตนเองไม่ใช่เด็ก แต่ขณะเดียวกันโลกของผู้ใหญ่ก็ยังไม่ต้อนรับพวกเขา หนุ่มสาวทั้งหลายจึงติดอยู่ตรงกลางระหว่างวัยนั้นและโดดเดี่ยวลึก ๆ (รอยสนธยาหน้า 18 ) ความสับสนในช่วงวัยรุ่นหรือที่เรียกว่าหัวเลี้ยวหัวต่อคือแก่นหลักที่ผู้เขียนต้องการผ่านโครงเรื่องย่อย ๆ ที่แบ่งเล่าตามประเด็นของตัวละคร แม้เรื่องราวจะเล่าย้อนกลับไปเมื่อสมัย 20 ปีที่แล้วสภาพสังคม วิถีชีวิตที่แตกต่างจากบริบทปัจจุบัน แต่ด้วยแก่นเรื่องสำคัญที่หยิบประเด็นชีวิตวัยรุ่นมาเล่าก็ยังเข้าถึงผู้อ่านทุกยุคทุกสมัย เพราะช่วงวัยที่สับสนคือสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ โครงเรื่องรองที่ผู้เขียนนำเสนอล้วนมาจากประเด็นต่าง ๆ ของช่วงวัยแห่งความอ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องเพื่อน ครอบครัว ความรัก ความต้องการที่จะหลุดออกจากกรอบของสังคม ปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ และความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องเผชิญ ประเด็นเหล่านี้ไม่ว่าจะอีกกี่สิบปี วัยรุ่น ณ ขณะนั้นก็ต้องเผชิญกับมันราวกับเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาให้ในช่วงวัยสนธยา
โครงเรื่องรองได้นำเสนอผ่าน ยูพี ตัวละครเอกที่ผู้เขียนใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเขาราวกับว่ากำลังฟังความหลังครั้งอดีตของชายหนุ่ม ยูพี คือเด็กหนุ่มฝีมือดีมีความสามารถด้านการวาดรูป ทว่าเพราะปมเรื่องแม่ทำให้เขาต้องทำตัวให้เป็นที่ยอมรับทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน การมาศึกษาต่อที่โรงเรียนอาชีวะ ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเป็นเกิดการยอมรับจากกลุ่มเด็กเก๋า ผมรู้สึกเก๋าขึ้นเยอะ แม้ว่าเสื้อนักเรียนซึ่งตัวหลวมโคร่งจะไม่ได้เข้ากับช่วงล่างเลยก็ตาม พวกเด็กเก๋าบางคนที่เคยเฉย ๆ กับผมยังพูดว่าเจ๋งดีว่ะ แบบเคิร์ทเลยนี่หว่า ผู้รู้สึกพอใจกับคำชมนั้น มันเข้าเป้าเลยแหละ (รอยสนธยาหน้า 31) ความต้องการเป็นที่ยอมรับจะทวีมากขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นปกติตามลักษณะของช่วงวัยแห่งความสับสน อารมณ์ที่พลุ่งพล่านทว่ากลับอ่อนไหวพร้อมชักจูงได้ง่าย เพื่อนคือสิ่งสำคัญ ณ ช่วงเวลานั้น เพื่อนจะมีอิทธิพลกับวัยรุ่นเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่อ่อนไหวง่ายขาดความมั่นใจในตนเอง ความต้องการเป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อนกลายเป็นการกดทับชีวิตจนไร้ตัวตนของตัวเขาเอง แต่เมื่อวัยรุ่นตกอยู่ในห้วงเวลาของความสับสน การไร้ตัวตนของตนเองไม่น่ากลัวเท่ากับการไร้ตัวตนในสายตาของผู้อื่น เพราะความโดดเดี่ยวบนช่วงวัยคาบเกี่ยวคือความเงียบเหงาที่แสนทรมานในวัยสนธยา
ความโดดเดี่ยวคือสิ่งที่วัยรุ่นพบเจออยู่บ่อยครั้ง อันที่จริงทุกช่วงวัยก็มีบางช่วงบางเวลาที่ค้นพบความโดดเดี่ยวในจิตใจแต่เพราะ วัยรุ่น เป็นครั้งแรกที่ต้องเจอกับมัน ด้วยโลกของเขาไม่กว้างใหญ่เท่าโลกของผู้ใหญ่ ทุกปัญหาที่ต้องเจอกระทั่งความโดดเดี่ยวในจิตใจก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับวัยรุ่นเสมอ ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว เขาก็ต้องการการยอมรับ ณ พื้นที่ตรงนั้นเช่นกัน จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ผู้เขียนได้หยิบยกขึ้นมา คือปัญหาครอบครัว การไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัวเปรียบเสมือนโลกทั้งใบไร้พื้นที่ให้กับเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเติบโต ประเด็นนี้ถูกเล่าผ่านตัวละคร เอก เด็กชายวัยรุ่นผู้มีความสดใสในตัวเอง แต่ภายใต้รอยยิ้มของเอก เขาต้องเก็บซ้อนปัญหาในใจซ่อนไว้ เมื่อครอบครัวอยู่บนความราวฉานไร้รอยต่อ เพราะการหย่าร้างของผู้ใหญ่ ไอ้เอกพยายามทำหน้าที่หน้าที่เป็นกาวใจระหว่างแม่กับพ่อมาตลอด ทุกครั้งที่พ่อแม่ทะเลาะกันรุนแรงไอ้เอกจะเข้าไปคุยกับแม่ที พ่อที แล้วก็พยายามบอกทั้งคู่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้แย่ขนาดนั้น เป็นแค่การไม่เข้าใจกันมากกว่า (รอยสนธยาหน้า 333) ปัญหาของผู้ใหญ่ที่รับมือไหว แต่ไม่ใช่กับวัยรุ่นผู้แสนเปราะบาง คำว่าครอบครัวอบอุ่นของเอกคือการอยู่พร้อมหน้าทั้งพ่อและแม่ แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนั้น ความโดดเดี่ยวก็คืบคลานเข้าจิตใจ และผลักไสให้เขาทำอะไรบางอย่างเพื่อหลุดพ้นจากความทรมาน การกระทำของเอกล้วนมาจากปัญหาที่เขาเผชิญ นำไปสู่การแก้ปัญหาแบบผิด ๆ ด้วยการพึ่ง ยาเสพติดหรือการทำร้ายร่างกายตนเองและผู้อื่นเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ไอ้เอกรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด มันจึงพยายามนัดน้องตุ๊กตายังห้องเล็กบนดาดฟ้าตึกหนึ่ง ในช่วงที่โรงเรียนบางตา ในตอนนั้นไอ้เอกคิดว่า หากมันมีอะไรกับน้องตุ๊กตาสักครั้ง น้องตุ๊กตาอาจรู้สึกผูกพันหรือเป็นของกันและกันมากกว่านี้ ไอ้เอกอยากผูกมัดน้องตุ๊กตาด้วยอะไรสักอย่างเพราะบัดนี้น้องตุ๊กตาคือคนสำคัญคนเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของมัน (รอยสนธยาหน้า 335)
เอกใช้ความรักประคองจิตใจของตนเองทว่าการกระทำของเขาไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ จะเห็นว่าความรักจึงอีกหนึ่งสิ่งที่ยึดโยงตัวตนของวัยรุ่นเอาไว้ จึงไม่น่าแปลกใจที่วัยรุ่นจะโหยหาความรักเป็นพิเศษ เพราะด้วยวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ความรู้สึกสนใจเพศตรงข้ามเริ่มเกิดขึ้นครั้งแรก หรือแม้แต่ความโดดเดี่ยวในจิตใจที่ต้องการพักพิงความรู้สึกกับใครสักคน ประเด็นความรักคือส่วนสำคัญที่ผู้เขียนนำเสนอทุกตัวละครเพื่อเสริมความสมจริงของช่วงวัยและความรักคือปมปัญหาสำคัญที่นำไปสู่จุดสูงสุดของเรื่อง วัยรุ่นกับความรัก ผู้ที่ผ่านวัยนั้นมาแล้วบางครั้งมองกลับมาราวกับเป็นเรื่องเบาหวิว แต่ใครจะผ่านพ้นวัยหนุ่มสาวไปได้โดยไม่เคยสัมผัสความรู้สึกซึ่งไม่มีเกราะกำบังใดสามารถป้องกัน แม้ผู้ที่ไม่เคยคบหาใครเลยทั้งชีวิตก็ตาม จะไม่มีสักครั้งเชียวหรือที่กลีบอ่อนบางของความรัก ความเสน่หาจะพลิ้วผ่านสัมผัสชีวิต (รอยสนธยาหน้า 61) ความรักเป็นประเด็นคู่กับวัยรุ่นเสมอ ในช่วงวัยสนธยาภายใต้ความสับสนและโดดเดี่ยว เมื่อไม่ได้ก้าวเดินเพียงคนเดียวก็สามารถทำให้การก้าวผ่านช่วงวัยนี้ไปอย่างอุ่นใจ แม้ความรักจะเป็นยาดีที่ช่วยให้จิตใจของวัยรุ่นไม่โดดเดี่ยวแต่ความรักก็เป็นยาพิษได้เช่นกัน
อิทธิพลของความรักที่ช่วยยับยั้งความโดดเดี่ยวนำไปสู่การโหยหาความรักที่รุนแรง และด้วยวัยที่อารมณ์พลุ่งพล่านการกระทำที่ขับเคลื่อนด้วยความรักมักมีความบ้าบิ่นอยู่ในนั้นเสมอ ฉะนั้นผู้เขียนจึงยกประเด็นความรักมาเป็นปมปัญหาสำคัญ ผู้เขียนนำเสนอประเด็นปัญหาความรักที่ส่งผลต่อตัวละครและได้กลายเป็นจุดสุดยอดของเรื่อง ผ่านเหตุการณ์ระหว่าง กุน เด็กสาวร่างท้วมที่แบกรับปัญหาด้านครอบครัว กุนเป็นอีกคนที่ไร้ตัวตนในห้อง ความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจของทีละนิดก่อนเธอจะพบกับ ยูพี เขาอ่อนโยนและใส่ใจตามนิสัยของเขา ทำให้กุนแอบรักยูพี อย่างเงียบ เธอยกให้ยูพีเป็นที่พักพิงหัวใจ แต่ก็ใจสลายเมื่อรู้ว่ายูพีมีใครในหัวใจไปแล้ว พิษร้ายแรงจากความรักผลักดันให้เธอประชดชีวิต เด็กสาวมอมเมาตนเองจนถูกขืนใจ ปัญหาทางจิตใจถูกกดทับไปอีกขั้นเมื่อเธอตั้งท้องกับเพื่อนชายในกลุ่ม ช่วงวัยที่อ่อนต่อโลกเกินกว่าจะหาทางออกให้แก่ตนเองได้ ปัญหาได้รุมฉีกทึ่งหัวใจของเด็กสาว ผลักให้เธอเข้าสู่วิธีแก้ปัญหาด้วยความตาย
ผู้เขียนสร้างจุดสุดยอดจากเหตุการณ์ฆาตกรรมของตัวละคร กุน โดยมีปมปัญหามาจากเรื่องความรัก เพื่อสะท้อนชีวิตวัยรุ่นที่ยึดโยงความรักเป็นส่วนสำคัญ แต่เป็นที่เข้าใจได้ในช่วงวัยที่เกิดความสับสนเหตุผลหลาย ๆ อย่างสะสมให้พวกเขาแสดงผ่านการกระทำที่รุนแรง จึงเป็นที่มาของเรื่องราวสยองขวัญ วิญญาณบนดาดฟ้า เรื่องอาถรรพ์ชั้น4 และดวงวิญญาณอาฆาตใต้ต้นจำปาก็มาจากประเด็นความรัก ความรักจึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในช่วงวัยรุ่น ภายใต้ร่องรอยของความสับสนบนชีวิตที่โดดเดี่ยว การมีอยู่ของความรักจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยประคองและโอบอุ้มพวกเขาเอาไว้ แต่ในทางกลับกันในช่วงวัยสนธยาที่ก้ำกึ่งระหว่างความมืดมนในจิตใจและความสดใสของชีวิต ความรักมีอิทธิพลขับเคลื่อนให้ไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่งซึ่งอาจจะดีหรือไม่ดีก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ เหมือนกับช่วงเวลาสนธยาที่ก้ำกึ่งระหว่างความสว่างและความมืดมน
ความโดดเดี่ยว ความรัก ความผิดหวัง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในร่องรอยของวัยสนธยา เมื่อความสนธยาผ่านเลยวัย ชีวิตก็พบกับแสงสว่างของเช้าวันใหม่ การเติบโตล้วนผ่านเรื่องราวที่หลากหลาย อดีตของความสุขได้จดบันทึกให้หวนนึกถึงช่วงเวลาที่หวานหอม แต่อดีตของความทุกข์คือฝันร้ายที่ไม่ควรกลับไปทับร่องรอยของมัน แต่บางเหตุการณ์บางเรื่องราวก็ไม่อาจลบเลือนมันไปง่าย ๆ เหมือนกับ ยูพี ตัวละครเอกที่ทำหน้าที่ดำเนินเรื่องราว เขามีภาวะทางจิตจากปมบาดแผลทางใจ เนื่องจากเขาเป็นอยู่ในเหตุการณ์ฆาตกรรมและเห็นภาพโหดร้ายในการจากไปของเพื่อนทั้งสาม ภาพนั้นกลายเป็นฝันร้ายที่ติดอยู่ในจิตใจของเขา การที่เขาเล่าเรื่องทั้งหมดละจดจำช่วงเวลาของวัยรุ่น สามารถอธิบายตามหลักการทางจิตวิทยาได้ว่า เขามีอาการtraumatic event หรืออาการของคนมีบาดแผลทางใจ ซึ่งเป็นอาการของคนตกอยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายไม่พึ่งประสงค์ ...รอยสนธยานั้นอีกแล้ว ..ช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์กำลังจะจากไปแต่ราตรียังไม่ครอบครองท้องฟ้า ช่วงเวลาที่ความมืดมนและแสงสว่างไม่อาจอ้างได้ว่าฝ่ายใดมีอำนาจมากกว่า ช่วงเวลาที่เด็กชายวัยรุ่นอายุสิบเจ็ดพบกับบางสิ่งสีเหลืองเก่าสลัว และสิ่งที่เกิดขึ้นยังคงทิ้งร่องรอยไว้ในจิตใจของเขาแม้ในเวลาร่วมยี่สิบปีต่อมา (รอยสนธยาหน้า 8 )
ผู้เขียนนำเสนอภาวะทางจิตใจของตัวละครผ่านการใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสนธยาความก้ำกึ่งช่วงเวลากลางวันและกลางคืนกับช่วงวัยที่อยู่ภายใต้ความสับสน และเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดจากอาถรรพ์ของวิญญาณใต้ต้นจำปาก็ล้วนเป็นภาวะทางจิตใจของตัวละครที่ถูกความโดดเดี่ยว ปัญหาต่าง ๆ ทางจิตใจรุมเร้ากลายเป็นการแสดงออกทางพฤติกรรมที่รุนแรง เช่นการใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเกิดอันตรายถึงชีวิต พฤติกรรมเหล่านี้ โดยส่วนใหญ่ตามหลักจิตวิทยาอธิบายไว้ว่ามักเกิดกับกลุ่มวัยรุ่นที่มีภาวะกดดัน วัยรุ่นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีความอยากลองทำอะไรเสี่ยง ๆ และมีการควบคุมหรือยับยั้งชั่งใจต่ำ การแสดงพฤติกรรมของกลุ่มคนที่มีความกดดันทางจิตใจบางอย่างและการกระทำหาทางออกอย่างรุนแรงของตัวละครในเรื่องก็มาจากภาวะดังกล่าว
ผู้เขียนใช้สัญลักษณ์ในการแสดงภาวะทางจิตใจของตัวละคร ก่อนที่ตัวละครจะมีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งจะต้องพบกับร่างแดงฉานของวิญญาณอาถรรพ์ใต้ต้นจำปา เหตุการณ์โศกนาฏกรรมเลวร้ายทั้งหลายในสถานที่แห่งนี้ ล้วนถูกโน้มนำชักใยโดยร่างแดงฉานซุ่มเสพความทุกข์ทรมานของวัยเยาว์เป็นภักษาหาร สิ่งสู่รอยแสงสนธยา ลวงหลอกนำพาหนุ่มสาวผู้เปราะบางสู่การกระทำมืดมิดบิดเบือนความรู้สึกกระแสคิดสู่ความผิดพลาดอันอาจหวนคืน (รอยสนธยาหน้า 319) ร่างแดงฉาน ดวงวิญญาณอาถรรพ์ที่ถูกลวงหลอก สะท้อนภาพความกดดันเกิดขึ้น และการต่อสู้ปกป้องทางจิตใจ นำไปสู่ภาวการณ์สูญเสียการควบคุมตนเองของทุกตัวละครที่แสดงพฤติกรรมดังกล่าวออกมา
การกลับไปซ้อนทับความทรงจำของยูพี คือการรื้อฟื้นอดีตของความทรงจำอันเลวร้ายและท้ายสุดเขาก็ยังคงติดอยู่ในอวนอดีตของความทรงจำช่วงวัยรุ่น ที่ซ่อนความเจ็บปวดในจิตใจ ครั้งหนึ่งในช่วงเวลาสนธยาของชีวิต เราล้วนสัมผัสกับมัน สบตากับมัน หรือแม้แต่โอบรับมันเข้าไปในร่างกายและวิญญาณของเราโดยไม่รู้ตัว และช่วงเวลาหนึ่งของผม มันอยู่ที่นั่น...ในรอยสนธยา (รอยสนธยา หน้า 19) ความก้ำกึ่งระหว่างช่วงวัยและความก้ำกึ่งระหว่างจิตใจล้วนเต็มไปด้วยความสับสน ชีวิตมีหนทางที่ก้าวเดินต่อไป การก้าวพ้นความสนธยาคือสิ่งที่เราต้องเผชิญ ท้ายสุดแล้วทุกอย่างคืออดีตที่เราต้องทิ้งไว้ด้านหลังและเลือกได้ว่าจะหันกลับไปมองหรือละทิ้งมันไว้ในเศษซากของร่องรอยสนธยา....
รอยสนธยา เป็นอีกวรรณกรรมชิ้นเอกที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นด้วยการหยิบยกประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นในยุคสมัยไหนก็ล้วนแล้วต้องเผชิญกับมัน พร้อมทั้งฉากหลังที่เป็นกลิ่นอายความสยองขวัญลึกลับน่าค้นหา การดำเนินเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาเนื้อเรื่องคือเสน่ห์และความสนุกของนิยายเรื่องนี้ อีกทั้งผู้เขียนยังแสดงภาพแนวคิดที่เป็นสัญลักษณ์ของภาวะทางจิตใจของตัวละครที่ผูกโยงกับเรื่องราว ลี้ลับ ซึ่งในความเป็นจริงเรื่องของจิตใจมนุษย์ก็ลึกลับไม่ต่างจากวิญญาณที่ไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่ซ่อนเร้นอยู่ในความมืด อาถรรพ์ที่ต้องพบเจอในช่วงเวลาสนธยาก็คือปัญหาที่วัยรุ่นต้องเผชิญ ท้ายสุดแล้วช่วงเวลาของวัยสนธยาที่เต็มไปด้วยความสับสนจะกลายเป็นเพียงอดีตของช่วงเวลาหนึ่งในชีวิต เหลือไว้เพียงร่องรอยสนธยา ที่เราเลือกได้ว่าจะหวนมาหามันอีกครั้งหรือลืมเลื่อนมันไปตามกาลเวลา
ข้อมูลอ้างอิง
ทรงศีล ทิวสมบุญ.(2562).รอยสนธยา.พิมพ์ครั้งที่1.ไอดี ออล ดิจิตอล พริ้น.
มฤษฎ์ แก้วจินดา.(2566).Trauma คืออะไร? Trauma คือ บาดแผลหรือปมในใจ.สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2567,
จากhttps://www.bettermindthailand.com/content/6356/trauma.
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.(2561).พฤติกรรมความรุนแรง เป็นอาการทาง
จิตเวชหรือไม่?.สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2567,จากhttps://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/